ความสำคัญของการออกแบบเว็บไซต์
การออกแบบเว็บไซต์ไม่ได้หมายความแต่เพียงลักษณะหน้าตาของเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์ กลุ่มผู้ใช้ การจัดการระบบข้อมูล การสร้างระบบเนวิเกชัน การออกแบบหน้าเว็บ ซึ่งรวมไปถึงการเลือกใช้กราฟฟิค สี รูปแบบตัวอักษร เพราะในบางครั้ง เว็บไซต์ที่ดูสวยงามและมีลูกเล่นอื่นๆ มากมาย ก็ไม่ได้หมายความว่ามีการออกแบบที่ดีได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การออกแบบเว็บไซต์ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับลักษณะและเป้าหมายของเจ้าของ โดยคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก
องค์ประกอบของการออกแบบเว็บไซต์ที่ดี
- ความเรียบง่าย (Simplicity) การสื่อสารเนื้อหาถึงผู้ใช้โดยจำกัดองค์ประกอบเสริมที่เกี่ยวข้องกับการนำเสนอให้เหลือเฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น เช่น อาจไม่ทำตัวอักษรวิ่งวนไปมาให้ลายตา การใช้ชนิดของตัวอักษร ไม่มากจนเกิดความวุ่นวาย หรือใช้สีตัวอักษรที่ฉูดฉาดเกินไป
- ความสม่ำเสมอ (Consistency) การใช้รูปแบบเดียวกันตลอดทั้งไซต์ เนื่องจากผู้ใช้จะรู้สึกกับว่าเว็บไซต์เสมือนสถานที่จริง ถ้าลักษณะของแต่ละหน้าแตกต่างกันมาก ผู้ใช้จะเกิดความสับสนหรือไม่แน่ใจว่ากำลังอยู่ในเว็บเดิมหรือไม่
- ความเป็นเอกลักษณ์ (Identity) การออกแบบควรคำนึงถึงภาพรวมขององค์กร เช่น ถ้าออกแบบเว็บไซต์เกี่ยวกับเด็ก วัยรุ่น ควรมีสีสันสดใส หรือการออกแบบเว็บไซต์ของธนาคารไม่ควรจะดูเหมือนสวนสนุก ผู้ออกแบบต้องเลือกใช้องค์ประกอบเหล่านี้อย่างเหมาะสม
- เนื้อหามีประโยชน์ (Useful Content) เนื้อหาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในเว็บไซต์ ดังนั้น ควรเตรียมเนื้อหาและข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการให้ถูกต้องสมบูรณ์ โดยมีการปรับปรุงเพิ่มเติมให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ
- ระบบเนวิเกชันที่ใช้งานง่าย (User-Friendly Navigation) เนวิเกชันเสมือนป้ายบอกทางให้กับผู้ใช้ การออกแบบเนวิเกชัน ควรออกแบบให้วางในตำแหน่งเดียวกันของทุกๆ หน้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน
- มีลักษณะที่น่าสนใจ (Visual Appeal) เป็นเรื่องยากที่จะตัดสินว่าหน้าตาของแต่ละเว็บไซต์แห่งหนึ่งแห่งใดน่าสนใจหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบความชอบของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ดีหน้าตาของเว็บไซต์จะมีความสัมพันธ์กับคุณภาพขององค์ประกอบต่างๆ เช่น ภาพกราฟฟิกจะต้องสมบูรณ์ไม่เป็นรอย หรือจุดด่าง หรือมีเส้นขอบเป็นขั้นบันได การใช้โทนสีที่เข้ากันอย่างสวยงาม ตลอดจนตัวอักษรที่อ่านง่าย สบายตา เป็นต้น
- การใช้งานอย่างไม่จำกัด (Compatibility) การออกแบบให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่เข้าถึงได้มากที่สุด โดยไม่มีการบังคับให้ผู้ใช้ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ เพิ่มเติม หรือสามารถแสดงผลได้ในทุกๆ ระบบปฏิบัติการที่มีความละเอียดของหน้าจอที่ต่างกันได้อย่างไม่มีปัญหา
กระบวนการพัฒนาเว็บไซต์ และการออกแบบเนวิเกเตอร์ (Designing Web Navigator)
Phase 1: สำรวจปัจจัยสำคัญ (Research)
รู้จักตัวเอง กำหนดเป้าหมายและสำรวจความพร้อม
เรียนรู้ผู้ใช้ ระบุกลุ่มผู้ใช้และศึกษาความต้องการ
ศึกษาคู่แข่ง สำรวจการแข่งขันและเรียนรู้คู่แข่งขัน
Phase 2: พัฒนาเนื้อหา (Site Content)
สร้างกลยุทธ์การออกแบบ
หาข้อสรุปขอบเขตเนื้อหา
Phase 3: พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure)
จัดทำระบบข้อมูล
จัดทำโครงสร้างข้อมูล
พัฒนาระบบเนวิเกชัน
Phase 4: ออกแบบและพัฒนาหน้าเว็บ (Visual Design)
ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บเพจ
พัฒนาเว็บต้นแบบและข้อกำหนดสุดท้าย
Phase 5: พัฒนาและดำเนินการ (Production & Operation)
ลงมือพัฒนาเว็บเพจ
เปิดตัวเว็บไซต์
ดูแลและพัฒนาต่อเนื่อง
การออกแบบเนวิเกเตอร์ (Designing Web Navigator)
เนวิเกเตอร์เป็นเสมือนป้ายบอกทางให้ผู้ใช้งานไปยังหน้าเว็บเพจต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและไม่หลงทาง โดย
เนวิเกเตอร์เป็นเสมือนป้ายบอกทางให้ผู้ใช้งานไปยังหน้าเว็บเพจต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและไม่หลงทาง โดย
สามารถบอกผู้ใช้ได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ได้ผ่านที่ใดมาบ้าง หรือควรจะบอกไปทางไหนต่อ
ตัวอย่างเนวิเกเตอร์ เว็บของ Apple
การออกแบบเนวิเกเตอร์ที่ดี
- เข้าใจง่าย
- มีความสม่ำเสมอ
- มีการตอบสนองต่อผู้ใช้
- มีความพร้อมและเหมาะต่อการใช้งาน
- นำเสนอหลายทางเลือก
- มีขั้นตอนสั้นและประหยัดเวลา
- มีรูปที่สื่อความหมาย
- มีคำอธิบายที่ชัดเจนและเข้าใจได้ง่าย
- มีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของเว็บไซต์
- สนับสนุนเป้าหมายและพฤติกรรมของผู้ใช้
การเลือกใช้สี (Designing Web Colors)
สีสันในหน้าเว็บเพจเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ เนื่องจากสิ่งแรกที่พวกเขามองเห็นจากเว็บเพจก็คือสี การเลือกใช้สีในเว็บไซต์มีความซับซ้อนพอสมควร เริ่มตั้งแต่กระบวนการเข้าเรื่องการแสดงออกของสีภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ต่างกันของบราวเซอร์ จอมอนิเตอร์ และระบบปฏิบัติการ ตลอดจนถึงการเข้าใจทฤษฎีสี รู้จักเลือกใช้สีให้เหมาะสมเพื่อการสื่อความหมายอย่างสวยงาม
รูปแบบชุดสีพื้นฐาน (Simple Color Scheme)
ชุดสีร้อน (Warm Color Scheme) ชุดสีเย็น (Cool Color Scheme)
ชุดสีแบบสีเดียว (Monochromatic Color Scheme)
ชุดสีตรงข้าม (Complementary Color Scheme)
ชุดสีตรงข้ามข้างเคียง (Split Complementary Color Scheme)
ชุดสีตรงข้ามข้างเคียง 2 ด้าน (Double Split Complementary Color Scheme)
ระบบสีที่ใช้ในการออกแบบเว็บไซต์
ระบบสี RGB (Red Green Blue) เป็นที่นิยมใช้กันสำหรับการออกแบบเว็บไซต์ โดยสีจะเกิดจากแม่สี 3 สี คือ สีแดง สีเขียว และสีน้ำเงิน ผสมกันจะทำให้เกิดเฉดสีกว่า16.7 ล้านสี ในการออกแบบเว็บไซต์นั้น HTML จะอาศัยการกำหนดสีพื้นหลังหรือตัวอักษร หรือลิงค์ต่างๆ โดยใช้ค่า RGB ในระบบเลขฐาน 16 ในการระบุค่าสีหนึ่งๆ
ตัวอย่าง
#FF0000 หมายถึง สีแดงที่มีความเข้มสูงสุดโดยปราศจากสีเขียวและสีน้ำเงิน
#00FF00 หมายถึง สีเขียวที่มีค่าความเข้มสูงสุดโดยปราศจากสีแดงและสีน้ำเงิน
#0000FF หมายถึง สีน้ำเงินที่มีค่าความเข้มสูงสุดโดยปราศจากสีแดงและสีเขียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น